วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 13

 คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 13

difference engine : เครื่องคำนวณทางตรรกะ
    เป็นอุปกรณ์ประมวลผลทางตรรกศาสตร์ที่จะไม่มีวันจบ สร้างโดย Charles Babbuge

digital computer : คอมพิวเตอร์เชิงตัวเลข,คณิตกรเชิงตัวเลข
    เป็นอุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลและจัดการคำนวณและเปรียบเทียบข้อมูล ใช้ควบคู่กับเรื่อง
       คอมพิวเตอร์แบบอนาล็อก

direct-access : การเข้าถึงโดยตรง
    เป็นการเข้าถึงข้อมูลในเวลาที่ต้องการโดยดึงข้อมูลมาเฉพาะที่ตั้งที่ข้อมูลอยู่ เป็นการอ่านและ
       เขียนข้อมูลโดยตรงเช่นเดียวกับการค้นหาข้อมูลโดยตรง

diskette : แผ่นบันทึก
    เป็นฟลอปปี้ดิสก์ เป็นเทปแม่เหล็กราคาถูก สำหรับอุปกรณ์ I/O และเป็นหน่วยความจำสำรอง

 distributed data processing : การประมวลผลข้อมูลแบบกระจาย
    เป็นการบรรยายทั่วไปเกี่ยวกับการประมวลผลแบบตรรกะ เกี่ยวข้องกับข่าวสารคำสั่งตลอด
       จนการทำงานแบบรวมทั้งทางกายภาพ ประมวลผลและอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ

 documnutation : การจัดทำเอกสาร
    เป็นเอกสารระหว่างการวิเคราะห์และคำสั่งย่อยของโปรแกรมและข้อมูลของโปรแกรมและระบบ 
       เก็บตัวแปรและมีไว้เพื่อปรับปรุงโปรแกรามในวันต่อไป

editor : บรรณาธิกรณ์หรือบรรณาธิการ
    เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ทบทวนและใส่ตัวอักษาและคำสั่งอื่นของโปรแกรม

electronic mail : การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์
    เป็นการส่งข้อความทั่วไปโดยระบบคอมพิวเตอร์และการสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นการส่ง
       ข้อมูล, ข้อความ, และสารสนเทศ เป็นการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปอีกคอมพิวเตอร์หนึ่งเหมือน
       กับการทำงานของไปรษณีย์

electronic apreadsheet program : โปรแกรมกระดาษทำการอิเล็กทรอนิกส์
    เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว, คำนวณและวิเคราะห์ข้อมูล มีการทำงานแบบแถวและ
       คอลัมน์

 EPROM : หน่วยความจำโปรแกรมลบได้
    ลบและอ่านหน่วยความจำได้เพียงอย่างเดียว โดยสามารถเขียนโปรแกรมได้ในเงื่อนไขอย่างจำกัด
       เพียงครั้งเดียว

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 12

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 12

computer : คอมพิวเตอร์หรือคณิตกร
           เป็นเครื่องคำนวณระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยออกแบบเพื่อจัดระบบที่เป็นอัตโนมัติในการรันและ
       การทำงานมีหน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ โดยละเอียดเป็นลำดับขั้นตอนแปลที
       ละคำสั่งที่ได้รับไป

computer network : ข่ายงาน หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
    เป็นการเชื่อมต่อการประมวลผลสำหรับคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องหรือมากกว่า

computer operator : การดำเนินการคอมพิวเตอร์หรือการปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
    เป็นการทำงานที่รวมถึงการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ เป็นการเริ่มดำเนินโปรแกรม ตรวจสอบ
       การทำงานของไมโครโปรเซสเซอร์และจบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ

 console : ส่วนเฝ้าคุมหรือจอเฝ้าคุม
    เป็นช่องทางของคอมพิวเตอร์ที่ใช้มนุษย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์

data communications : การสื่อสารข้อมูล
    เป็นวิธีการถ่ายข้อมูลระหว่างการประมวลผลและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยทำการโอนถ่าย
      ข้อมูลข่าวสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

 data entry operator : พนักงานป้อนข้อมูล
    เป็นผู้ที่ถอดข้อมูลจากเทปเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นหน้าที่
       เฉพาะบางคนที่สามารถเข้าใจข้อมูลและแทนค่านั้นด้วยภาษาที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้

 data processing : การประมวลผลข้อมูล
    เป็นความต้องการที่จะปฏิบัติงานประมวลผลข้อมูลเพื่อให้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์

 debug : แก้จุดบกพร่อง
    เป็นการตรวจสอบที่จุดบกพร่องและแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรมและหรือคำสั่งย่อยใน
       ชุดคำสั่ง

 decision support system : ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
    เป็นการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจไว้เป็นสำเนาเพื่อการวางแผนและการตัดสินใจ

deagnosties : การวินิจฉัย
    เป็นการแสดงข้อความผิดพลาดด้วยคอมพิวเตอรืที่เกิดจากปัญหาจากระบบและคำสั่งของ
       โปรแกรม

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 11


คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 10

 cylinder : ทรงกระบอก
    แทร็คบนจานแม่เหล็กซึ่งเกิดจากจานแม่เหล็กแต่ละแผ่นเรียงกันเป็นทรงกระบอก และแทร็คที่เรียง
       ตรงกันเรียกว่า cylinder
    
data : ข้อมูล
    ข้อมูลที่เตรียมไว้เพื่อจะนำไปเข้าสู่การประมวลผล

 data base : ฐานข้อมูล
    ที่รวมของไฟล์ที่มีความสัมพันธ์กันโดยใช้หลักการบางอย่างทำให้ข้อมูลไม่ซ้ำซ้อนกันและสามารถ
       เรียกใช้งานได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

 data base administrator : การบริหารฐานข้อมูล
    เป็นงานที่ใช้สำหรับค้นหา ปรับปรุง แก้ไขการเข้าถึงฐานข้อมูล เป็นการเอาไว้ใช้ฐานข้อมูลโดยใช้
       ระบบฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป การบำรุงรักษา

 data base management system : ระบบการจัดการฐานข้อมูล
    เป็นโปรแกรมสำหรับจัดการฐานข้อมูล ปรับปรุงข้อมูล การค้นหาข้อมูล ระบบนี้สามารถประมวล
       ผลได้หลายโปรแกรมพร้อมกัน

cathaode ray tube : หลอดภาพ
    เป็นหลอดอิเล็กทรอนิกส์ที่จะส่งข่าวสารไปแสดงผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลลัพธ์ด้าน
       ข้อมูลบนหลอดทีวีและหน้าจอ

 central processing unit : หน่วยประมวลผลกลาง
    เป็นส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ในการควบคุมการแปลและการรันโปรแกรมและ
       คำสั่งต่างๆ ใน CPU ประกอบด้วยหน่วยความจำหลัก หน่วยคำนวณและตรรกะ และหน่วยควบคุม

 channel : ช่องสัญญาณหรือร่องข้อมูล
    เป็นเส้นทางสำหรับการส่งสัญญาณระหว่างคำสั่งและตำแหน่งของข้อมูล แบ่งเป็นแทร็คในเทป
       แม่เหล็กหรือเรียกว่า แบนด์ในดรัมแม่เหล็ก เป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไปสู่ CPU 
       และจาก CPU ไปสู่อุปกรณ์ต่างๆ

chip : ชิป
    สร้างมาจากซิลิโคนประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และประกอบเป็น integrated

 compiler : ตัวแปลชุดคำสั่งหรือชุดคำสั่งแปลชุดคำสั่ง
    คำสั่งในคอมพิวเตอร์เป็นแบบภาษาเครื่อง ซึ่งโดยปกติผู้เขียนโปรแกรมจะเขียนด้วยภาษาระดับ
       สูงที่คอมพิวเตอร์ไม่รู้จัก ตัวแปลภาษาจะทำการแทนคำสั่งภาษาระดับสูงนั้นด้วยภาษาเครื่องไม่ว่าจะเป็น
       ชุดคำสั่งและคำสั่งย่อย นอกจากนี้ยังแปลงระดับการทำงานหรือปัญหาของภาษาเป็นภาษาเครื่องด้วย


คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 10

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 10


bug : จุดบกพร่อง
    การ error ในระบบหรือโปรแกรม การ error ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือในรายละเอียดบางชิ้น
       ของฮาร์ดแวร์

bus : บัส
    การสื่อสารระหว่าง provide หรือ มากกว่า 1 devices เช่น ระหว่าง CPU, หน่วยความจำ และ
       อุปกรณ์รอบนอก โดยคอมพิวเตอร์จะต่อเข้ากับเครื่อง server
    
byte : ไบต์
    เป็นกลุ่มของบิต จะมีอยู่ 8 operater ในหน่วยหนึ่ง โดยจะมีตัวแปรเป็นอักขระหรือสัญลัษณ์พิเศษ
       โดยปกติ 1 ไบต์จะมี 8 บิต

cache memory : หน่วยความจำแบบแคช
    เป็นหน่วยความจำที่มีการทำงานสูง ความเร็วสูง เป็นการทำงานของหน่วยความจำเพื่อประมวลผล
       ข้อมูลหรือโครงสร้าง

CAD/CAM : การออกแบบและผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
    โดยปกติทั่วไปจะนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการออกแบบและกระบวนการผลิตของธุรกิจต่างๆ

CAI : การสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
    คือการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการสอน ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้เองโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ

 constant : ค่าคงที่
    เป็นตัวเลขที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในโปรแกรม

control program : โปรแกรมควบคุม

    ปกติจะเป็นระบบปฏิบัติการ โปรแกรมควบคุมสามารถช่วยควบคุมการปฏิบัติการและการจัดการใน
       ระบบคอมพิวเตอร์
    
 control unit : หน่วยควบคุม
    เรียกกันว่า CPU และสามารถพบได้ในการ execution ของโครงสร้างโปรแกรม และเป็นการประมวล
       ผลส่วนกลางซึ่งจะทำงานควบคุมโดยตรงของระบบคอมพิวเตอร์

 coursor : ตัวชี้ตำแหน่ง
    สัญลักษณ์ที่แสดงผลบนจอภาพ คือ ขีดเส้นใต้กระพริบเพื่อแสดงหรือชี้ว่า ตัวถัดไปอยู่ตำแหน่งไหน 
       อาจจะเป็นสัญลักษณ์ขีดเส้นใต้ หรือกล่องซึ่งบอกว่าคุณกำลังอยู่ตำแหน่งไหนบนจอภาพ



คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์9

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์9

1> assembly language : ภาษาแอสเซมบลี
    เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ เป็นภาษาระดับต่ำคล้ายๆกับภาษา Basic
       และภาษา Cobol

  2> automatic teller machine : เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ
    เป็นเครื่องทีไม่มีคนประจำอยู่ ซึ่งสามารถควบคุมการถอนเงิน การดูยอดบัญชีและทำ
       งานอื่นๆ เกี่ยวกับการจ่ายเงินโดยอัตโนมัติ

  3> auxiliary storage : หน่วยเก็บช่วย หน่วยเก็บรอง
    เป็นหน่วยความจำที่ช่วยในการรองรับหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์หรือที่เรียก
       ว่า หน่วยความจำสำรอง (Secondary storage)

  4> background processing : การประมวลผลส่วนหลัง
    เป็นการ execute โดยอัตโนมัติของโปรแกรมส่วนหลังระหว่างโปรแกรมคอมฯ กับระบบ
       ปฏิบัติการ เมื่อระบบไม่สามารถทำตามคำสั่งการประมวลผลส่วนหน้าได้

  5> backup : การสำรอง
    การสำรองเอาไว้ใช้สำรองโปรแกรมหรือสำรองไว้เพื่อกันโปรแกรมเสียหาย

  6> BASIC : ภาษาเบสิก
    เป็นภาษาระดับสูงใช้ในการเขียนโปรแกรม เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้และ
       การทำงานเป็นแบบแบ่งเวลา (Time Sharing)

  7> batch processing : การประมวลผลแบบกลุ่ม
    การประมวลผลของตัวเลขหรือกลุ่มของตัวเลขจะมีการประมวลผลแบบกลุ่มและการประมวลผล
       เป็นแบบเรียงลำดับ การรันโปรแกรมของคอมพิวเตอร์จะรัน 1 โปรแกรมไม่เหมือนกับที่ต้องการ
       รันโปรแกรมทีละ Operator ในโปรแกรม

  8> binary number system : ระบบเลขฐานสอง

    ในระบบเลขฐานสองจะมีอยู่ 2 digits คือ เลข 0 กับเลข 1 ซึ่งคอมพิวเตอร์จะให้แปลงคำสั่งเป็น
       เลข 0 และ 1 ในการประมวลผล และใช้เลข 0,1 เป็นเงื่อนไขหรือการกระทำ

  9> booting the system : การเริ่มทำงานของระบบ
    การเริ่มต้นทำงานของคอมพิวเตอร์ จะเริ่มจากการ Boot เครื่องและจะมีระบบปฏิบัติการหรือ DOS 
       เข้ามาในหน่วยความจำหลัก

10> buffer : ที่พักข้อมูล ที่ปรับอัตรา หรือกันชน
    ใช้พักข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ input/out กับ CPU เป็นพื้นที่สำหรับหน่วยความจำขนาดเล็ก ติดต่อ
       buffer สองตัว

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 8

Host (โฮสต์)                      คอมพิวเตอร์หลักในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ต่อเชื่อมโยงอยู่


Icon (ไอค่อน)                  ไอคอน ภาพเล็กๆ ที่ปรากฏบนจอภาพเพื่อแทนโปรแกรมกิจลักษณ์ (feature) หรือแฟ้มข้อมูลใดๆ เมื่อต้องการใช้สิ่งเหล่านี้ ผู้ใช้เพียงแค่คลิกที่ icon เหล่านี้                                             โปรแกรม กิจลักษณ์ หรือแฟ้มข้อมูลนั้น ก็จะเปิดออกมาให้ใช้ได้ทันที

Image (อิมเมจ)                ภาพ หมายรวมถึง รูปภาพที่ปรากฏบนกระดาษ บนจอภาพ หรือรูปภาพที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพที่สร้างขึ้นมาจาก pixel (bitmap) ด้วย

Import (อิมพอร์ต)           การนำเอาเอกสารสารสนเทศจากที่อื่น ระบบอื่น หรือโปรแกรมอื่น มาสู่คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้

                                        Information (อินฟอร์เมชั่น) สารสนเทศ ได้แก่ข้อมูลที่นำมาแปลความหมายแล้ว เป็นข้อเท็จจริงที่ได้จากข้อมูล หลังจากที่ได้ประมวลผลข้อมูลนั้นๆ แล้ว

Input (อินพุท)                  การนำข้อมูลหรือ สารสนเทศเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เช่น ใช้แป้นพิมพ์ (keyboard) หรือการนำเข้าจากแฟ้มข้อมูลบนแผ่นดิสก์ ผ่านทางช่องดิสก์ เป็นต้น

Kernel (เคอร์เนล)            ศูนย์กลางของระบบ ควบคุมการปฏิบัติงาน ส่วนหนึ่งของระบบที่จัดการเกี่ยวกับหน่วยความจำ แฟ้มข้อมูลและอุปกรณ์ต่อเชื่อมโยงต่างๆ เป็นส่วนที่รักษา                                            เวลาและวันเดือนปี ส่วนนี้ทำหน้าที่นำโปรแกรมปฏิบัติการออกมาทำงาน และเป็นส่วนที่กำหนดระบบแหล่งข้อมูล

                                        Key (คีย์)                          แป้นคีบนแป้นพิมพ์ ในภาษาไทยมักเรียกว่า แป้นอักษร

Keyboard (คีย์บอร์ด)      แป้นพิมพ์ หรือ คีบอร์ด เป็นอุปกรณ์ประกอบภายนอกอย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ดีด เป็นเครื่องมือนำข้อมูลเข้า (input device)                                                 อย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์

Keyword (คีย์บอร์ด)        คำไข ข้อความ วลี หรือ รหัสใดๆ ที่เก็บไว้ใน key field และนำมาใช้เรียงลำดับ หรือใช้ในการค้นหาในระเบียน; คำซึ่งได้สงวนไว้เพื่อใช้ในภาษาโปรแกรม                                             หรือใช้ในระบบการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 7

 
 Font (ฟอนต์)                      รูปแบบและลักษณะของตัวอักษรชนิดหนึ่งๆ

Floppy disk (ฟล็อบปี้ดิสก์) แผ่นดิสก์ชนิดอ่อน ทำด้วยสาร Mylar เคลือบด้วยสารแม่เหล็ก

                    
 Format (ฟอร์แมต)            รูปแบบ โครงสร้างหรือลักษณะของหน่วยหนึ่งๆ ของข้อมูล
                                     
 Freeware (ฟรีแวร์)            โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ให้เปล่าไม่ต้องเสียเงินซื้อ
                                        
Giga (จิ๊กกะ)                       อ่านว่า จิ๊กกะ มีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลัง 9 หรือ 1,000,000,000

Global (โกลบอลล์)            สากลทั่วโลกทั้งหมด เมื่อนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์หมายถึง ทั้งหมด เช่น ทั้งหมดโปรแกรม เอกสารตลอดเรื่องหรือทั้งเรื่อง เป็นต้น
                                   
 Grid (กริด)                        ตารางซึ่งเกิดจากเส้นตรง 2 ชุดตัดกัน คือเส้นตรงชุดตั้ง และเส้นตรงชุดนอน
Hardware (ฮาร์ดแวร์)      ฮาร์ดแวร์ ตัวเครื่องของคอมพิวเตอร์และตัวเครื่องของอุปกรณ์ประกอบภายนอก (peripheral) อื่นๆ

Header (เฮดเดอร์)            หัวกระดาษ หน้าเอกสารใน word processing ข้อความแถวบนสุดที่มีไว้เพื่อบอกชื่อหนังสือ หรือเอกสารนั้น หรือบท หรือตอนนั้นๆ

Help (เฮปป์)                      กิจลักษณ์อย่าง หนึ่งมีไว้สำหรับช่วยเหลือการใช้คอมพิวเตอร์ ในโปรแกรมปฏิบัติการต่างๆ ประกอบไปด้วยคำแนะนำ และการแก้ปัญหาต่างๆ ในการ                                                      ทำงานในโปรแกรมนั้นๆ

คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 6


 Data (ดาต้า)                    ข้อมูล

Database (ดาต้าเบส)      ฐานข้อมูล แหล่งที่รวบรวมข้อมูลไว้เพื่อใช้สำหรับการค้นคว้า หรือนำมาใช้แฟ้มข้อมูลอย่างหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยระเบียน (record) หรือตาราง (table) ระเบียนแต่ละระเบียน ต่างก็ประกอบไปด้วย field (หรือ column) ต่างๆ

Debug (ดีบั๊ค)                  การค้นหา การแก้ไขข้อผิดพลาดทางตรรกะในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดทางด้านฮาร์ดแวร์

Delete (ดีลีท)                  การลบข้อความ ลบแฟ้มข้อมูล หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเอกสาร

Desktop (เดสท็อป)         เนื้อที่บนจอภาพ ซึ่งจัดไว้ให้ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์ เหมือนกับการใช้โต๊ะทำงาน

Edit (อีดิท)                      การปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง เอกสาร หรือแฟ้มข้อมูล เพื่อให้ถูกต้องและดีขึ้น

Encode (เอนโค้ด)           ทำเป็นรหัส เช่น การป้องกันการเข้าถึงข้อมูล คุณสามารถแปลงข้อมูลให้เป็นรหัสอย่างใดอย่างหนึ่ง
                                       
 Environment (เอนไวรอนเม้น) ชุดของอุปกรณ์หรือ เครื่องใช้ต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือเครื่องใช้ระบบใดระบบ
                                        
Error (เอเร่อร์)                    ความผิดพลาด ทางด้านคอมพิวเตอร์ ความผิดพลาด (error) เป็นผลลัพธ์ของเหตุการณ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่คาดคิด ความผิดพลาดในด้านต่างๆ ทาง                                                                                                    คอมพิวเตอร์

File (ไฟล์)                            แฟ้มแฟ้มข้อมูล เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล หรือสารสนเทศ รวมทั้งโปรแกรมต่างๆ ด้วย

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เพิ่มคะแนนสอบกลางภาค

1. จงให้คำนิยามศัพท์ดังนี้

11.1.  Help Desk คือ

HelpDesk คือโปรแกรมช่วยเหลือในการทำงาน มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ระบบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านใดก็ตามที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของระบบ ตัวอย่างโปรแกรมจำพวก HelpDesk เช่น Abacus Helpdesk , ServiceDesk Plus เป็นต้น  หรือในอีกความหมายหนึ่ง HelpDesk ก็คือบุคคลผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ระบบ ซึ่งจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น Call Center, Customer Service, Web call center, Customer Care เป็นต้น
1.2. Social Analytics คือ
            Social Analytics คือ การเปรียบเทียบวิเคราะห์แปล
ความหมายของปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เราจะพบความสามารถดังกล่าวในซอฟแวร์ระบบสังคมวึ่งจะถูกใช้ในการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และบน Social Web

1.3. NFC Payment หรือ Near Field Communication Payment  คือ
            Near Field Communication (หรือ NFC) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นที่ใช้ได้ดีกับโครงสร้างพื้นฐานแบบไร้สัมผัส ช่วยสนับสนุนรองรับการสื่อสารระหว่างเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในระยะใกล้ๆ NFC ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sony และ NXP โดยใช้คลื่นความถี่ 13.56 MHz. บนพื้นฐานมาตรฐาน ISO 14443 (Philips MIFARE and Sony’s FeliCa) ปัจจุบันบริษัททั้งสองได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ลิตและพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ จัดตั้งเป็น NFC Forum เพื่อให้เกิดการใช้งานในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ในระยะเริ่มแรกมีบริษัทโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลกประกาศนำเทคโนโลยีนี้มา ใช้กับโทรศัพท์มือถือแล้ว เช่น Nokia, Samsung, Motorola เป็นต้น
การประยุกต์ใช้งานส่วนใหญ่มักนำ NFC มาใช้กับการชำระเงินที่ต้องการความรวดเร็วและมีมูลค่าไม่สูง ซึ่งจะทำให้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้เพื่อการชำระเงิน โดยวิธีการแตะบนเครื่องอ่านหรือเครื่องชำระเงิน เช่น การให้บริการในร้านอาหารจานด่วน ร้านขายสินค้า ระบบการซื้อขายตั๋ว และระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ peer-to-peer เช่น เพลง เกม และรูปภาพ การชำระเงินค่าโดยสารในระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น การชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้ก่อให้เกิดการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ลดการเข้าคิวชำระเงินในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
NFC Update
NFC หรือ Near Field Communications ปัจจุบันมีมาตรฐานคือ ISO 18092 ซึ่งตัว chip NFC ที่ available กันอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ก็มักจะสามารถ interop กับ มาตรฐานของ RFID ย่าน 13.56MHz พวก ISO 14443 A&B และ ISO 15693 ได้ เมื่อนำ NFC เข้าไปใช้ในมือถือ ก็จะมี applications อยู่หลักๆที่พูดกันอยู่สามสี่ตัวก็คือ เรื่องของ payment, ticketing, smart poster และ peer-to-peer communications ระหว่างมือถือด้วยกัน

1.4. Freeware คือ
ฟรีแวร์ (freeware) หมายถึง ซอฟต์แวร์ ที่พัฒนาขึ้นนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็จะมีข้อกำหนดในการใช้งานซอฟต์แวร์นั้น เช่น ซอต์แวร์นั้นไม่สามารถนำไปพัฒนาหรือแสวงหาผลประโยชน์จากซอต์แวร์ได้ ซึ่งจะคล้ายกับ แชร์แวร์ (shareware) คือ สามารถใช้งานได้เช่นกัน แต่จะมีเงื่อนไข หรือข้อจำกัดของการใช้งาน หรือกำหนดเวลาในการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อต่ออายุการใช้งาน หรือทำให้ซอฟต์แวร์ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1.5. Open Source คือ
            OpenSource คือ กลุ่ม software ที่เปิดเผย source code ของโปรแกรม ทำให้สามารถแก้ไข ดัดแปลง source code ได้หมด ซึ่งเป็นการให้สิทธิเสรีแก่ผู้ที่จะนำไปใช้เพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกันใน ลักษณะของสังคมซอฟต์แวร์
ข้อดีของโปรแกรมแบบ OpenSource 
1.Open Source เป็นโปรแกรมที่เปิดให้ใครก็ได้บนโลกนี้สามารถเข้ามาพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนั้นจึงมีนักพัฒนาโปรแกรมหลายคน จึงทำให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพสูง
2.Open Source ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ตัวอย่างโปรแกรมที่เป็น Open Source ก็อย่างเช่น PHP , My SQL, Star Office เป็นต้น นอกจากโปรแกรมแล้ว ยังมีระบบปฏิบัติการ Open Sorce อย่างระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาใช้ทดแทนวินโดวส์ของไมโครซอฟต์นั่นเอง
1.6. Shareware คือ
            Shareware คือโปรแกรมประเภททดลองใช้งาน ปกติแล้วจะหมายถึงโปรแกรมรุ่นทดลองใช้ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเหมือนกับเวอร์ชั่นเต็มทุกประการ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่คุณสมบัติบางอย่างอาจถูกตัดออกไป หรือบางโปรแกรมจะเป็นลักษณะของการจำกัดเวลาหรือจำนวนครั้งในการใช้งาน แต่ไม่จำกัดคุณสมบัติ เช่น ใช้ได้ 30 ครั้ง หรือ 30 วัน เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจาก Freeware ที่เป็นโปรแกรมแจกจ่ายให้ใช้ฟรีอย่างไม่มีข้อจำกัด หากต้องการใช้โปรแกรมแบบไม่มีข้อจำกัด ผู้ใช้ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อโปรแกรมเวอร์ชั่นสมบูรณ์จากผู้พัฒนา
1.7. sCRM (social Customer Relationship Management) คือ
            Social CRM หมายถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ (Social Customer Relationship Management) เป็นเครื่องมือที่กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนเสริมให้กับการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบดั้งเดิม ซึ่ง
Social CRM การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
จะช่วยให้เกิดการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทำให้องค์กรสามารถตอบโต้แบบตัวต่อตัวกับลูกค้าผ่านโลกออนไลน์ได้ทันที ทำให้เกิดการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของการทำ Social CRM แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นลูกค้าสังคมออนไลน์ ลักษณะของลูกค้ากลุ่มนี้คือจะรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น facebook, Twitter และ Google+ และให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เชื่อถือไว้ใจในสังคมออนไลน์ของตัวเอง ยินดีจะแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกับคนอื่นๆ ในสังคมออนไลน์ มักหาข้อมูลเสริมที่สัมพันธ์กับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเพื่อตอบความต้องการของตัวเอง มักแสดงความคิดเห็นได้ทั้งแง่บวกและแง่ลบเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มีต่อสินค้าที่ใช้ และในเวลาเดียวกันก็คาดหวังว่าจะมีคนมาร่วมแสดงความคิดเห็นหรือคลายข้อข้องใจด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถทำได้หลายช่องทาง รวดเร็ว และไม่จำกัด ในโลกแห่งไซเบอร์จึงถือได้ว่าลูกค้าสังคมออนไลน์เป็นลูกค้าที่มีความสำคัญต่อรูปแบบและวิธีการในการเสนอสินค้าบริการขององค์กร
1.8       Innovation Skill  คือ
สร้างนวัตกรรมใหม่ มั่นฝึกฝน พัฒนาตัวเอง เรียนให้เกิดทักษะ เรียนโดยการปฏิบัติ
1.9       Maket Insight  คือ
สิ่งสำคัญในการทำการตลาดด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับมาการนำเอาข้อมูลเหล่านี้มาแปรผลเป็นข้อมูลเชิงลึก
1.10Virtual Machine คือ
โลกเสมือน มิติที่ถูกสร้างขึ้นใน Cyber Space โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปผ่านการเชื่อมโยงทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ทต่างๆ โดยเน้นให้ผู้เล่นหรือผู้ใช้ทั่วโลก ต่างมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย อิทธิพลของ Virtual World ส่งผลให้เด็กและเยาวชน และผู้ใหญ่เอง เกิดความหลงใหล มีจำนวนผู้เข้าไปในโลกแห่งนี้ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โลกเสมือน มิติหรือโลกเสมือนจริง ในปัจจุบัน มีตัวอย่างให้พวกเราได้เห็นกันหลายรูปแบบ



2. ให้ศึกษากล่าวถึงความสำคัญของ ICT และแนวคิดของเศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economy)หรือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ในประเด็นดังต่อไปนี้
2.1. การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (ICT Driven Economy) ได้อย่างไร

การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการดำเนินธุรกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถดำเนินการ เลือกสินค้าคำนวณเงิน ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิตได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business)สามารถนำเสนอสินค้า ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชำระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ กระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย
2.2. ICT ช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ (Knowledge Based Society) ได้อย่างไร
    เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความสะดวกสบาย
                 1.  เป็นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น  โดยสามารถเอาชนะเรื่องระยะทางเวลา และสถานที่ได้
                  2. มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกๆด้าน

                  3. เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย
             2.3. ยกตัวอย่างโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น พร้อมอธิบายคุณลักษณะเด่น ๆ ของโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นนั้น ๆ  ในการบูรณาการกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต

             WordPress คือ โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีไว้เพื่อสร้างและจัดการเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต ( Contents Management System หรือ CMSกล่าวคือ แทนที่เราจะดาวโหลดโปรแกรมมาทำการสร้างและออกแบบเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอย่างเช่น Macromedia Dreamwaver, Microsoft Fontpage (มีใครทันรึเปล่า) เป็นต้น แต่ CMSนั้นถูกสร้างมาเพื่อใช้งานบนอินเตอร์เน็ตโดยตรง หมายความว่าเมื่อคุณจะใช้งานโปรแกรมนี้ คุณก็สามารถใช้ได้ทันทีผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คุณล็อกอินเข้าสู่ระบบจัดการของ CMS นั้นๆ บางคนอาจจะคุ้นหูกับ cms เจ้าอื่น เช่น  joomla, simple machines, open cart, magento  ในอนาคต หากเราไม่มีงานทำ หรือตกงาน  WordPress เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้จากการเขียนเว็บ อาจจะเป็นการเขียนเว็บขายหรือขายของทางเว็บก็ได้

3. ให้นักศึกษาอธิบายลักษณะเด่น ข้อดี/ข้อเสีย วิวัฒนาการของเทคโนโลยี Web1.0, Web2.0 , Web3.0และ  Web4.0 มาให้เข้าใจมากที่สุด (อาจวาดภาพประกอบ)  (10 คะแนน)


web 1.0 คือ
การใช้งานอินเทอร์เน็ต (Internet) ในอดีต  เป็นการใช้ข้อมูลด้านเดียว(OnewayCommunication) ระหว่างเว็บ 1 เว็บจะมีผู้ใช้ 1 คนคือ web master หรือผู้สร้างเว็บเป็นผู้ให้ข้อมูล และ ผู้เข้าชมเว็บเป็นผู้รับข้อมูล จะรู้จักแค่ E-Mail, Chat Room, Download, Search Engine, Web board ส่วนมากจะใช้ภาษา HTML (HyperText Markup Language ) ต่อมาเริ่มมีการนำเอา Java Script และภาษา PHP (HyperText preprocessor) มาใช้งาน


ข้อดีของ     WEB 1.0    คือ ให้ข้อมูลข่าวสารในแบบสื่อสารทางเดียว
ข้อเสียของ  WEB 1.0  คือ ยากที่จะแบ่งปันส่งต่อเนื้อหาออกไป ผู้รับสารมีหน้าที่รับรู้ข่าวสารเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบได้ เช่น เดียวกับสื่อกระแสหลักอื่นๆ คือ หนังสือพิมพ์ วิทยุ

                web 2.0 คือ
เครือข่ายทางสังคม (Social network) ที่เน้นการแบ่งปัน (Sharing) รูปภาพ สื่อต่างๆ (Multimedia) รวมทั้งข้อมูลที่สมาชิกภายในกลุ่มเครือข่ายสังคมนั้นมีอยู่อย่างแท้จริง
web 2.0 เป็นการติดต่อ 2 ทาง (Two-way Communication) และผู้ใช้ยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์  (Co-Creation) และนำเสนอ Content ไม่ใช่ Content Provider (ผู้นำเสนอเนื้อหาข้อมูล ความรู้)  อีกต่อไป
ในยุค Web 2.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ ( Read-Write ) เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ เช่น
                วิกิพีเดีย  สารานุกรมออนไลน์  ( http://www.wikipedia.org/  , http://th.wikipedia.org/ )
เว็บบล็อก ( http://www.wordpress.com/  ,  www.blogger.com ) 
สื่อร่วมกัน Youtube.com, Flickr.com เครือข่ายทางสังคม Hi5, Twitter Sourceforge.org, Google Maps Google Earth


ข้อดีของ Web 2.0  สามารถต่อยอดข้อมูลต่างๆออกไปได้ไม่จำกัด  และข้อมูลจะถูกตรวจสอบคัดกรองอยู่ตลอด ตัวอย่างเช่น Wikipedia  ที่ใครก็สามารถเขียนในสิ่งที่ตนรู้ลงไปได้
Web 2.0 ยังก่อให้เกิดการตลาดแบบใหม่  สร้างงาน   สร้างธุรกิจเงินล้านบนอินเตอร์เน็ต  ก่อให้เกิดนักธุรกิจในโลกออนไลน์มากมาย
ข้อเสียของ WEB 2.0  ในการพัฒนามากขึ้นย่อมมีปัญหาตามมานั่นก็คือ   การละเมิดลิขสิทธิ์ 
Samy  Kamkar  กำลังพยายามสร้างประวัติศาสตร์การแฮ็กโดยที่เขาสร้างหนอนตัวแรกของเว็บ  2.0  ซึ่งเป็นักที่อันตรายโดยที่มันจะเจาะระบบป้องกันแบบที่  Firewall  ไม่สามารถป้องกันได้เลย       และจากการแผลงฤทธิ์ยังทำให้เว็บ  MySpace.com  ต้องปิดลงชั่วคราว

Web 3.0 คือ
Web = อ่าน / เขียน / ความสัมพันธ์กับเมตาดาต้าข้อมูลที่มีโครงสร้าง + บัตรประจำตัวที่มีการจัดการ
Web 3.0 เป็นการนำแนวคิดของ Web 2.0 มาทำให้ Web นั้นสามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Metadata ที่หมายถึงข้อมูลที่บอกรายละเอียดของข้อมูล (Data about data)ทำให้เว็บกลายเป็น Semantic Web คือ ตัว Web จะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น แล้วให้ Tags ตามความเหมาะสมให้เราแทน โดยข้อมูลแต่ละ Tag จะมีความสัมพันธ์กับอีก Tagหนึ่งโดยปริยาย ทำให้อินเตอร์เน็ตกลายเป็นฐานข้อมูล ความรู้ขนาดใหญ่ ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบมากขึ้น



Web 3.0 จะพัฒนาไปในลักษณะ Segment of One คือ Segment ที่มีบุคคลแค่คนเดียว หรือ ตอบโจทย์ความเป็นส่วนบุคคล เช่น อยากไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ เมื่อค้นข้อมูลแล้วเว็บไซต์จะ เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะจากสายการบินต่างๆ แพ็กเกจไหนดีที่สุด และนำมาเช็ค กับตารางของผู้ใช้ว่าตารางเวลาตรงกันไหม หรือจะนำไปเช็คกับตารางของเพื่อนที่ญี่ปุ่นใน Social Network เพื่อนัดเวลาที่ตรงกันเพื่อพบปะทานข้าวร่วมกันก็ได้
ในยุคสื่อดิจิตอล โลกอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญในการประยุกต์ใช้ไอทีเพราะอินเทอร์เน็ตช่วยให้ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารรอบโลกได้อย่างรวดเร็วช่วยให้ติดต่อกับคนหรือหน่วยงานภายในและนอกประเทศได้ ภายในพริบตา รูปแบบที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง (view ,create ,copy ,share etc.) ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย อุปกรณ์ใดๆที่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก้าวต่อไปของสื่อใหม่จะเป็นการเชื่อมโยงและผสมผสาน Digital content เหล่านั้นเข้าด้วยกันที่เรียกว่า Mash Up อันเป็นพื้นฐานของเว็บ 3.0 ที่ได้รับการพัฒนาให้มี ความฉลาดรู้ หรือ มี AI (Artificial Intelligence) สามารถค้นหา และคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค แต่ละคนได้  อุปกรณ์ไอที Gadget ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Notebook/ Netbook/ Smart Phone / MID (Mobile Internet Device), Digital Photo frame, Ebook หรือแม้แต่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Digital home appliance)จะได้รับการ พัฒนาให้มีความฉลาดในการทำงานมากขึ้น ทั้งขนาด คุณสมบัติ การทำงาน และราคา
ข้อดีของ web3.0 มีข้อดีตรงที่ สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้ สามารถคาดเดาสิ่งต่างๆได้       Web 3.0 = อ่าน/เขียน/ความเกี่ยวข้องข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของ Metadata หรือข้อมูลที่มีการบอกรายละเอียดของข้อมูลอีกที ความสามารถในการจัดการกับข้อมูลที่มีความสลับซับซ้อนได้ โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหามีความหลากหลายมากขึ้น มีการแบ่งหมวดหมู่ต่างๆ มากขึ้น ซึ่ง Web 3.0 จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้เห็นภาพชัดเจน รวมถึงลิงก์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาไว้ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ช่วยเพิ่มโอกาสให้มีคนเข้าชมหน้าเว็บของเราหรือเนื้อหาของเราได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บ ขณะเดียวกันก็จะทำให้เข้าถึงความต้องการแต่ละบุคคลได้มากขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นเนื่องจาก Web 3.0 มีปริมาณความจุที่สามารถรองรับข้อมูลได้มากกว่าเดิม มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ บนเว็บ
ข้อเสียของ Web 3.0 ต้องมีการพัฒนาความสามารถในการพัฒนาเว็บให้มากขึ้นบุคลากรต้องมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ก็ถือเป็นข้อจำกัด ทำให้คนมาทำเว็บน้อยลงแต่ก็เป็นการคัดกรองเว็บที่จะเกิดให้มีคุณภาพไปด้วย
Web 4.0 คือ
 จาก Web 3.0 ก็กลายมาเป็น Web 4.0 หรือที่เขาเรียกกันว่า "A Symbiotic web" คือเว็บไซต์ที่ทำงานแบบ Artificial Intelligence (AI) ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามมารถคคิดได้ มีความฉลาดมากขึ้น ในการอ่านทั้งเนื้อหา ข้อความ และรูปภาพ หรือวีดีโอ ก็สามารถที่จะตอบสนองแล้วตัดสินใจได้ว่าจะ load ข้อมูลอะไร จากไหนที่จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดมาให้ผู้ใช้งานก่อน และนอกจากนี้แล้วยังมีรูปแบบของการนำมาแสดงที่รวดเร็ว Web 4.0 จะทำให้ข้อมูลต่างๆ สามารถทำงานได้แทบจะทุกDevice หรืออาจจะช่วยระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้งาน


4.ให้นักศึกษากล่าวถึงประโยชน์และโทษของ Application หรือโปรแกรม ดังต่อไปนี้ ในแง่ของการประยุกต์ใช้งานกับธุรกิจ ( 20 คะแนน)
4.1  Weblog หรือ Blog
ข้อดี
  - Blog เป็นหนึ่งในช่องทางของการประชาสัมพันธ์ใน เครือข่ายสังคมอินเทอร์เน็ต นอกเหนือไปจากเครื่องมืออื่นๆ ที่ทุกท่านคุ้นเคยมานานเช่น Banner Ad,  Pop-up, Webboard Posting, E-mail/Forward Mail Marketing,
  - เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทกับลูกค้า: Blog ให้ความรู้สึกแบบเป็นส่วนตัวและเป็นมิตรกับลูกค้าได้มากกว่าช่อง ทางอื่น และ Blog นี่เองที่เป็นช่องทางที่รวดเร็ว ที่สุดในการสื่อสารแบบโต้ตอบทันทีกับลูกค้าโดยไม่มีข้อจำกัด
  - ใช้เป็นสื่อในการสื่อสารระหว่างบริษัทกับสื่อต่างๆ เช่นหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ ฯลฯ ที่ได้เข้ามาใน Blog ขององค์กร เพื่อติดตามข่าวสาร
  - การเขียน blog สำหรับบันทึกเล่าเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ
ข้อเสีย
   - บล็อกเกอร์มีอิสระในการนำเสนอ โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบจากใครก่อน อาจโพสเรื่องที่ไม่เหมาะสม เรื่องที่หมิ่นเหม่ หรือ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ผิดประเพณีและศีลธรรมอันดีได้ จึงต้องมีกติกาให้ตัวเอง หรือใช้จริยธรรมของแต่บุคคล ความมีเหตุมีผล ความระมัดระวัง รอบคอบ ของบล็อกเกอร์มากำกับไว้เอง
  - ผู้ให้บริการบล็อก ไม่สามารถกลั่นกรองเนื้อหาได้ 100% เว้นแต่จะสร้างระบบกรองคำหยาบ คำต้องห้ามไว้เพื่อให้มีการตรวจทานก่อนเผยแพร่ อาจมีความเสี่ยงเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย

4.2  Face book และ Fan page
ข้อดี
  - สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆได้
  - facegook ทำให้เรารู้จักคนอื่นๆได้
  - ได้ยอดค้นเว็บไซต์มากขึ้น
  - ทำให้คนอื่นๆคลายเครียดได้
  - ได้ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต
ข้อเสีย
  - ทำให้นักเรียนหรือนักศึกษาเสียการเรียน
  - ทำให้สายตาของเราเสียเพราะแสงสะท้อน
  - ทำให้เยาวชนไทยเชื่อมเสียได้ง่าย

4.3 YouTube
ข้อดี
  - ลงคลิปให้คนดูได้ฟรี   - คนดูดูฟรี
  - เป็นแหล่งรวบรวมความบันเทิง
ข้อเสีย
  - อาจมีการละเมิดลิขสิทธิ์
  - อาจมีการกระทำที่ไม่ดี เช่น สอนทำระเบิด

4.4 Webboard หรือ Forum
ข้อดี
เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร ถามตอบ หรือประกาศข่าวสารต่างๆ
เป็น web2.0 ที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้โดยการแสดงความคิดเห็น
ผู้ใช้หน้า homepage สามารถนำไปเป็นแหล่งที่สื่อสารหรือประกาศข่าวได้
ข้อเสีย
-       สามารถใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดีได้ โดยการโพสต์ข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่น ทําให้เกิดความเสื่อมเสีย
สามารถใช้เป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพได้
ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์จนเกินขอบเขต กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และผู้ส่งข้อความไม่แสดงความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น
การใช้เว็บบอร์ดในทางที่ผิด ส่งผลให้เกิดการหมกมุ่น หรือใช้เวลากับเว็บบอร์ดมากจนเกินความจําเป็น เป็นการเสียเวลาและส่งผลเสียกับผู้ใช้ในหลายๆ ด้าน
4.5 Dropbox / Skydrive  
ข้อดี
  - บันทึกข้อมูลได้หากเราไม่มี flashdrive
  - แชร์แบ่งปันข้อมูล และ ประมวลผลข้อมูลด้วย
ข้อเสีย
  - มีการจับระเบียบไฟล์เป็นหมวดหมู่ที่ดีนัก
  - มีการจำกัดหรือเงื่อนไขในการฝากไฟล์ค่อนข้างมาก

4.6 twitter
ข้อดี
  - สามารถเข้าถึงคนกลุ่มมากในระยะเวลาอันสั้น - ส่งข่าวสารได้เร็วมาก
  - สามารถส่งข่าวสารให้กับคนที่ follow เราทั้งหมดได้ในลักษณะของshort message ในเพียงพริบตาไม่เสียค่าบริการ
ข้อเสีย
 - twitter แต่ข้อเสียในการใช้งานแบบส่วนตัวเกินไปก็มีมากทวิตเตอร์มีการจำกัดตัวอักษรในช่องเวลาเราพิมพ์

4.7 Skype
ข้อดี
  - สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน เพราะสามารถใช้ไมโครโฟนที่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถพูดคุยได้
  - สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  - มีคุณภาพเสียงที่ดี ไม่มีเครื่องรบกวน
ข้อเสีย
  - ต้องมี CPU 400 MHz ขึ้นไป
  - ต้องมี RAM 128 mb ขึ้นไป
  - มีพิ้นที่ว่างฮาร์ดดิสอย่างน้อย 10 MB เป็นต้น

4.8 Line
ข้อดี
-ใช้สำหรับโทร ไม่ว่าจะเป็นการโทรด้วยเสียงหรือการโทรด้วยวีดีโอ ข้อดีของการโทรด้วยline ก็คือ ไม่เสียค่าโทรศัพท์ เพราะการโทรผ่านไลน์ ใช้แพ็คเกจอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้ประหยัดเงินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างประเทศ สามารถโทรหากัน โดยไม่เสียค่าโทรศัพท์ทางไกล
สื่อสารผ่านทางข้อความ สามารถสนทนาเป็นรายบุคคล หรือกลุ่มบุคคลก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถ ส่งรูปภาพ หรือไฟล์คอมพิวเตอร์ประเภทอื่นได้อีกด้วย จุดเด่นของ line ในการสนทนา ผ่านทางข้อความได้แก่การส่งรูปภาพตัวการ์ตูนที่เรียกว่าสติ๊กเกอร์ซึ่งช่วยให้ลดปริมาณการพิมพ์ข้อความลงได้มากและถือเป็นลูกเล่นที่ทำให้ line ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
การโพสต์ข้อความบนไทม์ไลน์ของ line มีลักษณะเช่นเดียวกันกับการโพสต์ข้อความบนfacebook ซึ่งเป็นการแสดงความรู้สึกหรืออยากแบ่งปันรูปภาพกิจกรรมต่างๆ เรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ  แบบไม่เฉพาะเจาะจง
- Line Keep ความสามารถใหม่ของ line ช่วยให้เราสามารถ เก็บไฟล์เอาไว้กับ line และสามารถแชร์ไปยัง application อื่นๆได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังสามารถประยุกต์ใช้ Keep ในการส่งไฟล์จากคอมพิวเตอร์ ไปสู่สมาร์ทโฟน หรือส่งไฟล์จากสมาร์ทโฟน ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือว่ามีความสะดวกเป็นอย่างมาก
 -นอกจากความสามารถของ application line เองแล้วยังมี application อื่นที่พัฒนาขึ้นมาและสามารถนำมาใช้ร่วมกับรายได้อีกมากมายเช่น line tv, line tool, line brush เป็นต้น
ข้อเสีย
- Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
- เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น
- ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้
- ผู้ใช้ที่เล่น social  network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้หรือบางคนอาจตาบอดได้     
- ถ้าผู้ใช้หมกหมุ่นอยู่กับ social  network มากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้
จะทำให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์

4.9 โปรแกรมระบบปฏิบัติการแบบ Open Source
ข้อดี
-                   Open Source Software ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูงขึ้น
-                   สามารถเริ่มใช้งาน Open Source Software ได้อย่างรวดเร็ว
-                   Open Source Software มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ามากกว่า
-                   Open Source Software สามารถเริ่มจากระบบเล็กๆ ก่อน และเพิ่มขยายภายหลังได้
-                   Open Source Software มีความปลอดภัยของข้อมูลมากกว่า
-                   Open Source Software สามารถดึงดูดพนักงาน IT ที่มีความสามารถสูงได้
-                   การใช้ Open Source Software สามารถลดค่าใช้จ่ายในการ Maintenance ลงได้
-                   Open Source Software มีอนาคตอีกยาวไกล
ข้อเสีย
-                   ถูก hack
-                   ติด spam หรือ malware
-                   หน้าเว็บเปลี่ยนไปเป็นหน้าอื่น
-                   เข้าระบบไม่ได้อีก
-                   หน้าเว็บ หายไปเลย
-                   ถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีเว็บอื่น
-                   ถูก bomb ส่งอีเมลออกเป็นจำนวนมาก

4.10 โปรแกรมอะไรก็ได้ที่นักศึกษารู้จักและชอบใช้งาน (นอกเหนือจากที่กล่าวมา )

Appstore  คือ ข้อดี
การคัดกรองคุณภาพก่อนที่ App ต่างๆ Apple จะรีวิว App ทุก App ก่อนจะนำเข้าสู่ App store ทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ก็ยังมี App กว่า 500,000 App ซึ่งมาจาก Developer จำนวน 85,000 เท่านั้น
นอกจากนี้ App ที่คุณสร้างขึ้นมาก็สามารถขึ้นมาอยู่บนหน้าแรกของ App store ได้ ทำให้มีโอกาสทำเงินมากยิ่งขึ้น
ข้อเสีย
ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องการคัดกรองคุณภาพนี่แหละ ที่มักจะใช้เวลาที่ไม่แน่นอนตั้งแต่ 2 วันถึงกว่า 2 สัปดาห์
และถึงแม้ว่า Apple จะมีการแสดง App หน้าใหม่ที่ดีแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหา App อื่นๆ ที่นอกเหนือที่แสดงบนหน้าของ App store